ปลูกผม วิธีไหนเป๊ะ ไม่แป่ก ไม่โป๊ะ อัพเดท 2024
การ ปลูกผม เป็นกระบวนการที่มีความเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบันมาก เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณได้ผมทรงใหม่ที่สมบูรณ์ และเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าหากคุณกำลังมองหาวิธีที่เหมาะกับคุณโดยไม่ต้องเสี่ยงอันตรายหรือใช้เวลาฟื้นตัวไม่นานมาก ขอแนะนำว่ามีวิธีที่เหมาะสมกับคุณในปี 2024 นี้ ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ช่วยให้คุณกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง แต่เป็นเลิศในด้านผลลัพธ์และความปลอดภัยอีกด้วย
เจาะลึก เทคนิคปลูกผมยอดฮิต FUT, FUE, DHI และ Long Hair ว่าแต่ละเทคนิคเหมาะกับใคร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร และเทคนิคไหนจะตอบโจทย์ปัญหาของคุณได้ดีที่สุด?
- > คนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน
- > คนที่กำลังตัดสินใจเลือกเทคนิคปลูกผม
> คนที่อยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคปลูกผมใหม่ๆ
> คนที่สนใจเรื่องการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ
หมอท็อป
– The Skin Clinic
1. ปลูกผม FUE
การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นกระบวนการที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อย้ายหรือปลูกเซลล์รากผมจากพื้นที่หนึ่งของศีรษะไปยังพื้นที่ที่ต้องการใหม่ เป็นวิธีที่ทันสมัยและปลอดภัย เนื่องจากไม่มีการใช้มีดหรือเลเซอร์ในกระบวนการ ทำให้ลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บหรือมีแผลหลังการผ่าตัดลงมาก
ในกระบวนการ FUE จะใช้เครื่องมือพิเศษที่ช่วยในการเจาะรากผมที่ต้องการย้ายออกจากหนังศีรษะ และหลังจากนั้นเซลล์รากผมจะถูกเก็บรวบรวมและเตรียมพร้อมสำหรับการปลูกในพื้นที่ใหม่ การปลูกผมจะทำในลักษณะหนึ่งที่เลือกส่วนของผมที่จะปลูกผมลงมาและเสริมเป็นกลุ่มผม นำเซลล์รากผมที่เก็บมาในขั้วหรือแผงไปปลูกในช่องโหว่ที่เตรียมไว้
2. ปลูกผม Long Hair FUE
การปลูกผมแบบ Long Hair ถือเป็นการศัลยกรรมย้ายเซลล์รากผม ซึ่งสามารถทำได้ด้วยเทคนิค FUE หรือ DHI ซึ่งมีความแตกต่างจากการปลูกผมถาวรแบบธรรมดา โดยในกระบวนการนี้แพทย์จะเริ่มจากการเจาะรูแล้วดึงเซลล์รากผมออกมาพร้อมกับเส้นผมที่ยาวได้เลย การเจาะเซลล์รากผมออกมานั้นจะมีการเก็บเส้นผมที่มีความยาวประมาณ 2-3 ซ.ม. ที่เรียกว่า “Celebrity hair transplant” เทคนิคนี้สามารถสร้างแนวผมใหม่ได้ตามที่ต้องการ และผมที่ปลูกใหม่จะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยไม่เห็นรอยแผลเป็น และไม่ต้องพักฟื้นหลังจากการทำงานศัลยกรรม
3. ปลูกผม FUI
เทคนิค FUI คือการผสมผสานระหว่างเทคนิค FUE และ DHI เพื่อปลูกผมใหม่ โดยใช้เครื่องมือพิเศษที่เรียกว่า “DHI Implanter” ที่ช่วยให้กราฟต์ผมถูกนำมาปลูกบนศีรษะของผู้รับบริการได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น การใช้หัวเจาะขนาดเล็กช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในการโหลดกราฟต์ผม เพื่อปลูกผมที่ช่วยลดเวลาในการดำเนินงาน
ทำให้มีโอกาสการขึ้นของเส้นผมมากขึ้น เมื่อนำกราฟต์ผมกลับเข้าไปปักและปลูกบนศีรษะของผู้รับบริการ โดยการทำงานที่รวดเร็วจะช่วยลดโอกาสให้กราฟต์ผมตาย และไม่ขึ้นผลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้น FUI เป็นเทคนิคที่มีประสิทธิภาพและความแม่นยำในการปลูกผมใหม่โดยไม่ต้องสะสมเวลามากนานในการดำเนินงานรักษา
4. ปลูกผม Long Hair FUI
เทคนิค FUI (Follicular Unit Implantation) เป็นวิธีการปลูกผมที่ใช้เครื่องมือเฉพาะชื่อว่า “DHI Implanter” (Direct Hair Implanter) เพื่อช่วยให้กระบวนการปลูกผมเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น วิธีการนี้เป็นการผสมผสานระหว่างเทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction) และ DHI (Direct Hair Implantation) โดยใช้หัวเจาะขนาดเล็กของ DHI Implanter ในการทำนวัตกรรมเส้นผมให้ลงบนหน้าผากหรือบริเวณที่ต้องการปลูก
วิธีการนี้ช่วยให้เส้นผมถูกโหลดและปลูกได้อย่างแม่นยำและเร็วกว่าเมื่อใช้เทคนิคปลูกผมแบบเดิม ทั้งยังช่วยลดความเจ็บปวดและอัตราการขึ้นของเส้นผมที่ปลูกขึ้นได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ การใช้เส้นผมยาวใน FUI ยังช่วยให้ผลลัพธ์ดูมีความธรรมชาติมากขึ้น เนื่องจากสามารถปรับแต่งแบบและทิศทางของเส้นผมได้อย่างอิสระ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่สวยงามและธรรมชาติในการปลูกผมใหม่
5. การใช้ Growth Factor
การฉีด Growth Factor เพื่อสร้างผมใหม่โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น เป็นเทคนิคที่ใช้เกล็ดเลือดของตนเองเพื่อ กระตุ้น รากผมให้แข็งแรงและเจริญเติบโต แพทย์จะนำเกล็ดเลือดมา กระตุ้นแยกและคัดเลือดที่เข้มข้นกว่าเลือดปกติ 3-4 เท่า ซึ่งเกล็ดเลือดเหล่านี้จะปล่อยสารสำคัญที่เรียกว่า Growth factor (GF) เพื่อช่วยเสริมรากผมและ กระตุ้น การทำงานของรากผม เทคนิคนี้ช่วยชะลออาการผมร่วง บำรุง รากผมให้แข็งแรง และทำให้ เส้นผมแข็งแรง และหนาขึ้น นี่เป็นนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาผมร่วงและผมบางโดยไม่ต้องผ่าตัด และเพิ่มประสิทธิภาพในการ กระตุ้นผมใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. ALMI Nano Fat กระตุ้นรากผมด้วยเซลล์ไขมันตัวเอง
ALMI Nano Fat คือกระบวนการที่นำไขมันตัวเองจากบริเวณต้นขาหรือสะโพกของผู้รับบริการมาสกัด และกระบวนการนี้ทำให้ไขมันมีโมเลกุลขนาดเล็ก พร้อมทั้งคัดแยกไขมันที่มีคุณภาพดี และแข็งแรง ด้วยขั้นตอนสกัดทั้งหมด 4 ขั้นตอน เมื่อได้ไขมันโมเลกุลที่เล็กที่สุดแล้วนำมาฉีดในบริเวณที่มีปัญหาเกี่ยวกับผมร่วงหรือผมบาง เช่การกระตุ้นรากผมและช่วยซ่อมแซมการ ผลิตเส้นผม ให้มีเส้นผมที่เพิ่มมากขึ้น ผมจะดูหนาและมีสีดำ กระบวนการนี้ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศเนื่องจากไม่เจ็บปวด ไม่มีแผล และไม่ต้องกังวลเรื่องการแพ้ระคายเคือง เนื่องจากเป็นไขมันของตนเอง และช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผมใหม่ที่เกิดขึ้นให้มีความสมบูรณ์มากขึ้นและอยู่ได้นาน
7. Rigenera สร้างผมใหม่ด้วยเซลล์รากผมของตัวเอง
การปลูกผมโดยใช้เทคโนโลยี Recell (Regenera Activa) เป็นวิธีใหม่ที่ไม่ต้องผ่าตัดและปลอดภัย วิธีนี้ใช้รากผมจากหลังศีรษะ เซลล์รากผมจะถูกแยกแล้วฉีดกลับเข้าไปในบริเวณที่ต้องการปลูกผม มันจะเข้าไปช่วยลดการทำงานของฮอร์โมนด้วย วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่ออาการแพ้ เนื่องจากใช้เซลล์รากผมของตนเองในการรักษา นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างรากผมใหม่ให้แข็งแรงและเส้นผมใหญ่ขึ้น การปลูกผมโดยใช้เทคโนโลยี Recell (Regenera Activa) เป็นวิธีการที่เป็นประโยชน์ สำหรับผู้ที่ต้องการผมใหม่โดยไม่ต้องผ่าตัดและมีความปลอดภัยและปราศจากผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย
8. FRM Anti Hair-Loss (FRM)
FRM เป็นเทคนิคที่ใช้ คลื่นวิทยุ (Radio Frequency) เพื่อกระตุ้นรากผม เมื่อใช้เทคนิคนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นผมและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้อาจแสดงผลอย่างรวดเร็วและมีอายุยาวนาน มีงานวิจัยจำนวนมากจากต่างประเทศที่ยืนยันความเป็นไปได้ของเทคนิคนี้